บทความ

รูปภาพ
"LIFE IS NATURE" ต้นข้าว : มนุษย์ผู้นั่น จอดรถมาถ่ายรูปต้นข้าวสีเหลืองทองที่แสนสวยงามอย่างพวกเรา ก้อนเมฆ : มนุษย์ผู้นั่น เขาถ่ายรูปก้อนเมฆสวยๆอย่างฉันต่างหาก ภูเขา : มนุษย์ผู้นั่น ถ่ายรูปภูเขาที่สลับซับซ้อน ล้อเล่นกับแสงแสนมีมิติมากกว่า บ้าน : เขาถ่ายรูปบ้านที่เรียงรายอย่างสวยงาม ทันสมัยนี้มากกว่า มนุษย์ผู้นี้ : ที่เราถ่ายเพราะเราชอบทั้งต้นข้าว ก้อนเมฆ บ้าน และภูเขา ถ้าให้เลือกแค่อย่างใดอย่างนึง มันคงไม่สวยงามเท่ากับทั้งหมดนี้มารวมกัน ถ้าทุกคนมองเห็นสิ่งดีๆของตัวเองและภูมิใจกับมันก็คงดี แต่ก็คงไม่มีประโยชน์ถ้าไม่เห็นความดีของสิ่งอื่นๆเลย... ไม่รู้ว่าปลากินน้ำ เล่นน้ำ อาบน้ำ พ่นน้ำ เป่าน้ำ หายใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะบางทีมันก็เป็นแค่เรื่องของปลา บางเรื่องที่ไม่รู้เราก็ควรรู้ แต่บางเรื่องที่เราไม่รู้ เราก็ไม่จำเป็นต้องรู้เหมือนกัน หอยทากตัวน้อยที่มีอายุขัยเพียง 5 ปีนั้น ใครจะรู้ว่า เจ้านี่มีต้นกำเนิดมากว่า สี่ร้อยล้านปีมาแล้ว เวลาเดินก็ชอบเดินเป็นวงกลม สายตาก็ไม่ค่อยจะดี เสียงก็ไม่ได้ยิน  หอยทากตัวนึงนั้น มันจะรู้มั้ยว่ามันและเพื่อนๆร่ว...
รูปภาพ
มองชีวิต ผ่านญี่ปุ่น VII ฟังเสียงธรรมชาติ               วันนี้อากาศดี มีแสงแดดสวยงามยามเช้าให้ได้เห็น อยู่ที่นี่ได้มีเวลาชมธรรมชาติอย่างเต็มที่ เห็นถึงความสวยงามของดอกไม้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง มันมีการผลิบานมากขึ้น ดอกใหญ่ขึ้น สวยงามมากขึ้น มีเวลามากจนขนาดมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของดอกไม้ รู้แม้กระทั่งว่ามันบานมากขึ้นกว่าเมื่อวาน มันเป็นความรู้สึกที่สวยงามแบบอธิบายไม่ถูกว่าเป็นอย่างไร มันอิ่มเอมมาก บางทีความรู้สึกคนเรามันก็ซับซ้อนนะ บางทีบอกว่าชอบ บอกว่าดี แต่ลึกๆแล้วมันมีอะไรมากมายกว่านั้นที่บอกมาเป็นคำพูดไม่ได้ การที่บอกว่าดี  มีความสุขในแต่ละครั้ง ความรู้สึกมันก็ไม่เหมือนกันนะ มันขึ้นกับสถานที่ เวลา บุคคล ต่างๆนาๆรอบตัวเราด้วย คนเรานี่แปลกนะ บางทีบอกว่ารู้สึกดีทั้งๆที่ลึกๆแล้วอาจรู้สึกแย่มากๆก็ได้  แต่ช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ทุกอย่างที่รู้สึก มันเป็นความจริง เป็นสิ่งที่รู้สึกตามที่เห็น ตรงไปตรงมาเลย อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องโกหกหรือหลอกใคร และที่สำคัญที่สุดคือไม่ต้องหลอกตัวเอง เรารู้ถึงมันด้วยความรู้สึกของตัวเอง เป็นอะไรที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ ...
รูปภาพ
มองชีวิต ผ่านญี่ปุ่น VI เริ่มงาน เริ่มใช้ชีวิต วันที่สองของการอยู่ที่ฟาร์ม วันนี้เป็นวันที่เริ่มทำงานอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากตารางที่ลุงเขียนไว้ให้คร่าวๆ คือเริ่มตื่นนอนเจ็ดโมงเช้า ให้อาหารไก่ ทานข้าวเช้าซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นขนมปัง ทำงานในฟาร์มผัก ดื่มชา ทำงาน ทานข้าวเที่ยง ทำงาน ดื่มชา ทำงาน ทานข้าวเย็น วนไปอย่างนี้เรื่อยๆทุกวัน  ตารางทำงานคร่าวๆ ที่ลุงเขียนไว้ให้ แต่เอาเข้าจริงงานไม่หนักเลย เพราะพักจิบชาแต่ละครั้งก็กินเวลาไปเป็นชั่วโมงแล้ว อากาศเย็นที่นี่เหมาะแก่การดื่มชาอย่างมาก ขณะที่จิบชาฟังเสียงธรรมชาตินั้น ก็คุยกับลุงไปเรื่อยๆ เราว่ามันเป็นเวลาที่ดีมาก ได้พูดคุยกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ยิ่งเราต่างวัฒนธรรมด้วยแล้ว ยิ่งคุยกันสนุกเข้าไปใหญ่ ลุงแนะนำให้มาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงที่ดอกซากุระบานด้วย เพราะเป็นช่วงที่สวยที่สุด ทุกที่จะเต็มไปด้วยดอกซากุระ โดยซากุระเริ่มบานจากภาคใต้แล้วไล่ขึ้นมาภาคเหนือ ลุงพูดขนาดนี้แล้ว คงต้องมาชมซากุระให้ได้ซักครั้งแล้วละสิ วันนี้งานในฟาร์มหลักๆเป็นการขุดเผือก แต่ที่เราชอบที่สุดคือโรงเก็บเผือก มองผ่านๆเหมือนเป็นแค่โรงเก็บของธรรมดา...
รูปภาพ
มองชีวิต ผ่านญี่ปุ่น V เริ่มเดินทางอีกครั้ง หลังจากพักผ่อน เที่ยวเล่น หนึ่งวันเต็มที่ ueno แล้ว วันนี้ก็มีภารกิจที่ต้องทำต่อ คือการไป WOOF ที่จังหวัด Chiba บอกตรงๆตื่นเต้นมาก และอยากทำมาก วันนี้วางแผนว่าจะออกจากที่พัก ไม่เกินแปดโมงเช้า แต่ก็ปาไปแปดโมงกว่า นั่งรถไฟไปจังหวัด Chiba เมือง Sawara ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง ถึงฟาร์มจริงๆประมาณเที่ยงกว่าๆ ที่จริงดูเรื่องการเดินทางมาอย่างดี ว่าต้องขึ้นรถไปขบวนไหน กี่โมง แต่เอาเข้าจริงก็ตกรถไฟ ตอนนั้นคิดว่าคงต้องรออีกนาน แต่ความจริงแล้วมันมีรถไฟมากมายหลายสายที่ไปถึง ลองดูปลายทางของรถไฟขบวนถัดไป แล้วพบว่าก็ถึงเหมือนกัน ลองนั่นรถไฟขบวนนั้นดู ลังเลอยู่นานเหมือนกันว่าจะนั่งขบวนนี้ดีไหม จะไปลงในที่ที่ไม่รู้จักหรือเปล่า สุดท้ายก็ตัดสินใจนั่งขบวนนี้ไปอยู่ดี แล้วก็พบว่ามันก็ถึงเหมือนกันแฮะ เริ่มเข้าใจรถไฟมากขึ้น ทำให้รู้ว่ามีรถไฟมากมายในญี่ปุ่นที่พาเราไปถึงที่หมายได้ ไม่จำเป็นต้องยึดตามแผนแบบจริงจัง และหลังจากนั้นมาการนั่งรถไฟก็กลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย แค่รู้ที่หมาย รู้สายรถไฟ ก็ไปถึงได้แล้ว การตกรถไฟวันนี้ทำให้รู้ว่า “ ชีวิตเรามีทางเลือกมากมาย อย่าไ...
รูปภาพ
มองชีวิต ผ่านญี่ปุ่น IV วันแรกในญี่ปุ่น ถ้าจะนับตามจริง วันนี้ถือเป็นวันแรกในญี่ปุ่น เราเคยคิดว่าการใช้ชีวิตคนเดียวมันยาก ตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่ายากอยู่นะ แต่การใช้ชีวิตคนเดียวในประเทศที่เราไม่รู้จักใคร และไม่มีใครรู้จักเรานั้น มันง่ายซะกว่าที่คิดไว้อีกนะ ง่ายกว่าใช้ชีวิตที่บ้านเราซะอีก มีอิสระทางความคิดมาก ไม่ต้องคิดอะไรมาก ตอนนั้นลืมทุกอย่างที่เคยทำทุกวันที่บ้านเราเลย หยุดคิดเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องปัญหาต่างๆในชีวิตถูกหยุดไว้หมดเลย คิดแค่สิ่งที่ได้เจอะเจอตรงหน้าเท่านั้นผู้คนมากมายไม่ได้ทำให้เรากลัว วัฒนธรรมที่แปลกใหม่ไม่ได้ยากต่อการเข้าถึง แค่การสังเกตและยอมรับมันก็เข้าใจได้ไม่ยาก แน่นอนว่าที่แรกของการมาเที่ยว ต้องเป็นวัดก่อน อย่างน้อยก็มาขอพรให้การมาเที่ยวครั้งนี้ราบรื่น ( แล้วก็ได้ตามที่ขอ ) ที่จริงแล้ววัดที่ญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์ในตัวเองมาก ต่างกับวัดที่ไทยเราโดยสิ้นเชิง แต่สิ่งที่วัดทุกวัดมีเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นที่ไหนคือ ความเชื่อและความศรัทธาจากผู้คนที่มาสักการะ ขอพร และน่าแปลกที่ไม่ว่าวัดไหนๆ ก็ทำให้เรารู้สึกสงบได้เสมอ แค่นั่งนิ่งๆดูผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา แทนที่เราจะคิดว่าม...
รูปภาพ
มองชีวิต ผ่านญี่ปุ่น III เริ่มเดินทาง ก่อนที่จะไปเราก็ลางานก่อน ประมาณสิบวัน (ที่จริงเรามีวันลาแค่หกวันต่อปี แต่อยากไปสิบวันก็เลยตัดสินใจอยู่เวรฟรี แบบไม่คิดค่าเวร เพื่อที่จะเก็บเป็นวันหยุดแทน พี่ๆที่ทำงานเขาก็ใจดีนะ ช่วยจัดตารางเวรให้) ทุกคนค่อนข้างตกใจที่รู้ว่าเราไปคนเดียวทั้งๆที่ไม่เคยไป (แต่ที่บ้านไม่รู้) เพื่อนๆก็เอาใจช่วยนะ ได้อยู่แล้ว ไม่อยากหรอก ค่อยๆไป แต่บางคนก็บอกว่ายากนะ หลงแน่ เหงาแน่ ไปคนเดียวบ้ารึเปล่า ต่างๆนาๆ แต่เราเตรียมใจไว้ตั้งแต่ตัดสินใจว่าจะไปคนเดียวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ต้องเจอ การเดินทางที่บางทีอาจผิดแผนบ้าง หลงบ้าง ก็ไม่เป็นไร เรายอมรับกับสิ่งเหล่านี้ได้ ทุกสิ่งที่แปลกใหม่ถือว่าได้เรียนรู้ และทุกๆการเปลี่ยนแปลงนั้นมันเป็นเรื่องปกติโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เราเข้าใจและยอมรับในตรงนี้ เลยทำให้อุปสรรคในการเดินทางลดลงไปได้มาก แทบจะเป็นศูนย์เลยด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็จัดการอุปสรรคในการตัดสินใจไปต่างประเทศคนเดียวได้ ก่อนถึงวันเดินทางเรายังทำงานทุกวัน พอรู้ตัวอีกทีก็ถึงวันเดินทางแล้ว ด้วยการที่ต้องเดินทางจากเชียงใหม่เพื่อไปต่อเครื่องที่สนามบินดอนเมืองนั้น ทำให้...
รูปภาพ
มองชีวิต ผ่านญี่ปุ่น II จุดเริ่มต้น              เวลาสายการบินต่างๆปล่อยโปรท่องเที่ยวถูกๆออกมา หลายคนคงเคยมีโมเมนต์ที่อยากจอง อยากไป แต่ทำไม่ได้ เนื่องด้วยเหตุผลต่างๆมากมาย ไม่มีเวลา ไม่มีเงิน ลางานไม่ได้ และอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เราพลาดเที่ยวบินที่น่าสนใจเหล่านี้ไป               วันนี้เราตัดสินใจโยนเหตุผลต่างๆเหล่านี้ทิ้งไป ปล่อยให้ปลายนิ้วได้ทำงานของมัน และทันทีที่กดจองและจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว ปลายนิ้วน้อยๆของเราก็หยุดชะงักลง ปล่อยให้สมองรับภาระอันหนักอึ้งนี้ไปเต็มๆ รู้ตัวอีกที เฮ้ย ! เราจองไปแล้ว จ่ายเงินแล้ว ต้องไปจริงๆใช่ไหม ญี่ปุ่นหรอ ไปกับใคร ไปยังไง ไปคนเดียวได้หรอ ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูเข้ามาในหัวเต็มไปหมด เอาไงดี เอาไงดี คิดวนไปวนมาซ้ำๆ บอกกับตัวเองนิ่งไว้ เย็นไว้ เรียกสติกลับมา ค่อยๆกลับเข้ามาถามตัวเองว่าเราทำอะไรลงไป เราจะไปญี่ปุ่น ครั้งแรกคนเดียว อืม … คิดไปคิดมาก็แค่ไปญี่ปุ่น ครั้งแรกคนเดียว เอาวะ ไปก็ไป ไม่น่ายากเย็นอะไร (ใครๆเขาก็ไปกัน ตามรีวิวในพันทิป) ไหนดูสิจองไปกี่วัน อืม สิบวั...